Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    saothaiduongonline
    • Home
    • ความบันเทิง
    • ข่าวสารล่าสุด
    saothaiduongonline
    ความบันเทิง

    อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์: ดื่มด่ำกับ ความงาม ของธรรมชาติป่าแท้

    Justin MitchellBy Justin MitchellAugust 27, 2025Updated:August 27, 2025No Comments2 Mins Read

    อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ ความงาม (Fiordland National Park) ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดในโลก พื้นที่กว่า 12,600 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยภูมิประเทศที่ขรุขระ ฟยอร์ดลึกที่เกิดจากธารน้ำแข็ง ภูเขาสูงตระหง่าน น้ำตกนับไม่ถ้วน และป่าเขียวขจีที่ยังคงความสมบูรณ์แทบไม่เปลี่ยนแปลง ฟยอร์ดแลนด์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกของยูเนสโก ในฐานะส่วนหนึ่งของเขต Te Wahipounamu ร่วมกับอุทยานแห่งชาติอีกสามแห่ง เนื่องจากมีคุณค่าทางธรรมชาติและระบบนิเวศที่โดดเด่น

    บทความนี้จะพาผู้อ่านดื่มด่ำกับความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดแลนด์ ตั้งแต่ภูมิทัศน์ สัตว์ป่า กิจกรรมการท่องเที่ยว จนถึงความสำคัญเชิงอนุรักษ์


    ภูมิประเทศและความโดดเด่นทางธรรมชาติ

    สิ่งที่ทำให้อุทยานแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่นคือภูมิประเทศที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อหลายล้านปีก่อน ทิ้งร่องรอยเป็น ฟยอร์ดลึกและยาว ซึ่งทะเลได้ไหลบ่าท่วมเข้ามา ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่

    • มิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound): ได้รับการยกย่องว่าเป็น “สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก” โดยรูเดียดยาร์ด คิปลิง (Rudyard Kipling) ฟยอร์ดแห่งนี้มีภูเขาสูงชัน น้ำตกไหลริน และหมอกที่ปกคลุมอย่างน่าอัศจรรย์
    • ดาวต์ฟูลซาวด์ (Doubtful Sound): ใหญ่และลึกกว่ามิลฟอร์ดซาวด์ บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยความลี้ลับ จนได้รับฉายาว่า “Sound of Silence”
    • ดัสก์ซาวด์ (Dusky Sound): หนึ่งในฟยอร์ดที่ใหญ่ที่สุดและมีความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์ เต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยและสัตว์ทะเลหายาก

    นอกจากนี้ยังมี ภูเขาและธารน้ำแข็ง เช่น Mount Tutoko และธารน้ำแข็งหลายแห่งที่ยังคงปรากฏให้เห็น เป็นภาพสะท้อนของวิวัฒนาการทางธรณีวิทยาที่ไม่หยุดนิ่ง


    ความหลากหลายทางชีวภาพ

    ฟยอร์ดแลนด์เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด บางชนิดพบได้เพียงที่นี่เท่านั้น

    • นก: ฟยอร์ดแลนด์เป็นบ้านของนกประจำถิ่น เช่น ทาคาเฮ (Takahe) ซึ่งเคยถูกคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วจนกระทั่งถูกค้นพบใหม่ในปี ค.ศ. 1948 นอกจากนี้ยังมีนกเคีย (Kea) นกแก้วภูเขาที่มีชื่อเสียงด้านความฉลาดและซุกซน
    • สัตว์ทะเล: ในฟยอร์ดสามารถพบ แมวน้ำขน (Fur Seal) ฝูงโลมา และบางครั้งวาฬก็ปรากฏตัว รวมถึงเพนกวินพันธุ์ Fiordland Crested Penguin ที่หายาก
    • พืชพรรณ: ป่าในฟยอร์ดแลนด์ส่วนใหญ่เป็นป่าฝนเขตอบอุ่น (temperate rainforest) เต็มไปด้วยมอส เฟิร์น และต้นบีชพื้นเมืองที่สร้างบรรยากาศชุ่มชื้นและลึกลับ

    ความสมบูรณ์นี้ทำให้อุทยานได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน “ดินแดนป่าแท้” ที่ยังไม่ถูกมนุษย์รบกวนมากนัก


    กิจกรรมและการท่องเที่ยว

    อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและผจญภัย โดยกิจกรรมยอดนิยมได้แก่

    • ล่องเรือชมฟยอร์ด: การนั่งเรือสำรวจมิลฟอร์ดซาวด์หรือดาวต์ฟูลซาวด์เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสภูเขาสูง น้ำตก และสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ความงาม
    • เดินป่าระดับโลก: ฟยอร์ดแลนด์เป็นที่ตั้งของเส้นทางเดินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เช่น
      • Milford Track: ได้รับการขนานนามว่าเป็น “การเดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” เส้นทางยาว 53.5 กิโลเมตร ผ่านป่าฝน หุบเขา และน้ำตก
      • Kepler Track: วงรอบยาว 60 กิโลเมตร ผสมผสานทั้งป่า ภูเขา และทะเลสาบ
      • Routeburn Track: เชื่อมต่อระหว่างฟยอร์ดแลนด์กับอุทยานแห่งชาติเมาท์เอสไพริง ให้ทิวทัศน์ภูเขาและหุบเขาที่สวยงามตระการตา
    • คายัคทะเล: สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ใกล้ชิดกับผิวน้ำและสำรวจอ่าวเล็ก ๆ
    • เฮลิคอปเตอร์ทัวร์: มอบมุมมองจากท้องฟ้า เห็นความยิ่งใหญ่ของฟยอร์ดและภูมิประเทศขรุขระได้ชัดเจน

    ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

    ฟยอร์ดแลนด์ไม่ได้มีเพียงความงดงามทางธรรมชาติ แต่ยังมีความหมายทางวัฒนธรรมสำหรับชาวเมารี ซึ่งเรียกพื้นที่นี้ว่า “Te Rua o te Moko” หมายถึงสถานที่แห่งตำนานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับการกำเนิดโลก ฟยอร์ดแลนด์เป็นทั้งพื้นที่หากินล่าสัตว์และจับปลา รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางจิตวิญญาณที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน


    ความท้าทายและการอนุรักษ์

    เนื่องจากฟยอร์ดแลนด์เป็นพื้นที่กว้างใหญ่และเปราะบาง การจัดการด้านการอนุรักษ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

    • การจัดการนักท่องเที่ยว: ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น การรบกวนสัตว์ป่า หรือการกัดเซาะของเส้นทางเดิน
    • ภัยคุกคามจากสัตว์ต่างถิ่น: เช่น หนูและพอสซัมที่รุกราน ทำลายรังนกและพืชพรรณพื้นเมือง
    • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ส่งผลต่อธารน้ำแข็งและสภาพแวดล้อมในระยะยาว

    รัฐบาลนิวซีแลนด์และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมจึงร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูและปกป้องพื้นที่นี้ เช่น การฟื้นฟูประชากรนกทาคาเฮ การควบคุมสัตว์ต่างถิ่น และการสร้างนโยบายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

    กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในฟยอร์ดแลนด์

    1. ล่องเรือชมมิลฟอร์ดซาวด์และดาวท์ฟูลซาวด์

    การล่องเรือคือประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรสัมผัส เส้นทางเรือพาผ่านหน้าผาหินสูงชัน น้ำตกที่ไหลลงสู่ทะเลสาบ และบางครั้งยังมีฝูงโลมาหรือแมวน้ำแหวกว่ายอยู่ใกล้ ๆ บรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตัวเล็กลงท่ามกลางธรรมชาติ

    2. เดินป่าในเส้นทางระดับโลก

    เส้นทางเดินป่าหลัก 3 เส้นทางของฟยอร์ดแลนด์ คือ มิลฟอร์ดแทร็ก (Milford Track), รูทเบิร์นแทร็ก (Routeburn Track) และเคปเลอร์แทร็ก (Kepler Track) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่สวยที่สุดในโลก แต่ละเส้นทางมอบประสบการณ์ที่ต่างกัน ทั้งทุ่งหญ้าแอลไพน์ ป่าโบราณ และวิวทิวทัศน์ของยอดเขาและฟยอร์ด

    3. พายเรือคายัคและดำน้ำตื้น

    ในบางอ่าวสงบเงียบ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคเพื่อสัมผัสฟยอร์ดใกล้ชิด น้ำทะเลลึกใสสะอาดเหมาะแก่การดำน้ำตื้น ซึ่งสามารถเห็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ เช่น ปลาทะเลสีสันสดใส และปะการังน้ำลึก

    4. การดูดาวในยามค่ำคืน

    ฟยอร์ดแลนด์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่แทบไม่มีแสงไฟจากเมืองใหญ่ ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องสว่าง นักท่องเที่ยวที่ค้างคืนในอุทยานสามารถเพลิดเพลินกับการดูดาว พร้อมความเงียบสงัดที่ยากจะหาที่ใดเปรียบ


    ความหลากหลายทางธรรมชาติและระบบนิเวศ

    ฟยอร์ดแลนด์เป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อน ตั้งแต่ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะจนถึงป่าฝนเขตอบอุ่น จึงก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพสูง

    • พืชพรรณ: ป่าโบราณที่เต็มไปด้วยต้นบีชสีเงิน ต้นพืชเฟิร์นขนาดใหญ่ และมอสที่ปกคลุมพื้นดินราวกับพรมเขียว
    • สัตว์ป่า: ที่นี่เป็นถิ่นอาศัยของนกหายาก เช่น นกทากาเฮ (Takahe) ที่เคยถูกเชื่อว่าสูญพันธุ์ และนกเคอา (Kea) นกแก้วภูเขาฉลาดที่มักเข้ามาทักทายผู้เดินทาง
    • สิ่งมีชีวิตในทะเล: น้ำลึกของฟยอร์ดมีระบบนิเวศพิเศษที่ทำให้สัตว์ทะเลน้ำลึกบางชนิดสามารถอาศัยใกล้ผิวน้ำ เช่น ปะการังดำที่พบเห็นได้ที่นี่

    การเดินทางและการเข้าถึง

    การเดินทางไปฟยอร์ดแลนด์สามารถเริ่มจากเมือง ทีอาเนา (Te Anau) ซึ่งเป็นประตูสู่เส้นทางเดินป่าและทริปล่องเรือ ส่วนการเดินทางจากเมืองควีนส์ทาวน์ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ เส้นทางสู่มิลฟอร์ดซาวด์เองก็นับเป็นการเดินทางที่น่าประทับใจ ด้วยถนนคดเคี้ยวผ่านภูเขา น้ำตก และอุโมงค์กลางหุบเขา

    สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด ยังสามารถเลือกนั่งเครื่องบินเล็กหรือเฮลิคอปเตอร์จากควีนส์ทาวน์ไปยังมิลฟอร์ดซาวด์ เพื่อชมวิวฟยอร์ดจากมุมสูง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร


    ฟยอร์ดแลนด์ในฤดูกาลต่าง ๆ

    • ฤดูร้อน (ธันวาคม – กุมภาพันธ์): อากาศอบอุ่น เหมาะกับการเดินป่าและทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด
    • ฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคม – พฤษภาคม): สีสันของใบไม้เปลี่ยนเพิ่มความงดงาม เส้นทางเดินป่าเงียบสงบกว่า
    • ฤดูหนาว (มิถุนายน – สิงหาคม): อากาศหนาวจัด ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ ทิวทัศน์งดงาม แต่การเข้าถึงบางพื้นที่อาจยากขึ้น
    • ฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน – พฤศจิกายน): น้ำตกในฟยอร์ดไหลแรงที่สุดจากการละลายของหิมะ ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง

    การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

    ฟยอร์ดแลนด์ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางเพื่อการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์ธรรมชาติ รัฐบาลนิวซีแลนด์และชุมชนท้องถิ่นร่วมกันดูแลเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

    • มีการจำกัดจำนวนผู้เดินป่าในเส้นทางยอดนิยมเพื่อป้องกันการทำลายธรรมชาติ
    • สนับสนุนธุรกิจนำเที่ยวที่ใช้พลังงานสะอาด
    • จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้มาเยือนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบ
    ความสำคัญของแคลเซียมและวิตามินดีต่อกระดูกที่แข็งแรง ตลาดนัดสวนจตุจักร: สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งสูงสุดของ กรุงเทพฯ มลพิษทางเสียง ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและปัญหาการนอนหลับ อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์: ดื่มด่ำกับ ความงาม ของธรรมชาติป่าแท้
    Justin Mitchell

    Related Posts

    ความผิดปกติด้านแรงจูงใจ: ผลกระทบของ กัญชา ต่อประสิทธิภาพชีวิต

    August 25, 2025

    อันตรายของควัน บุหรี่ ต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง

    August 15, 2025

    วิธีช่วยให้เด็กๆ เอาชนะความกลัวหมอ ฟัน

    August 14, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.