Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    saothaiduongonline
    • Home
    • ความบันเทิง
    • ข่าวสารล่าสุด
    • สุขภาพ
    saothaiduongonline
    ความบันเทิง

    ทะเลสาบล็อก เนส ส์ (สกอตแลนด์): เนสซี ความงามตามธรรมชาติ

    Justin MitchellBy Justin MitchellAugust 31, 2025No Comments3 Mins Read

    เมื่อเอ่ยถึงสกอตแลนด์ ชื่อของ Loch Ness เนส ซี มักปรากฏขึ้นมาในใจของผู้คนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากจะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศตามปริมาตรน้ำแล้ว Loch Ness ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยตำนาน เรื่องเล่าลี้ลับ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามเหนือคำบรรยาย โดยเฉพาะเรื่องราวของ “เนสซี” สิ่งมีชีวิตลึกลับที่หลายคนเชื่อว่ายังคงอาศัยอยู่ใต้ผืนน้ำลึกแห่งนี้

    บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับ Loch Ness ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับการตามหาเนสซี ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของภูมิภาคไฮแลนด์แห่งสกอตแลนด์


    ตำนานเนสซี: เรื่องเล่าที่ไม่เคยจางหาย

    เรื่องเล่าเกี่ยวกับ “เนสซี” หรือ Loch Ness Monster เป็นตำนานที่ยาวนานและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เรื่องราวเริ่มแพร่หลายตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เมื่อมีการบันทึกถึงสัตว์ประหลาดในแม่น้ำ Ness โดยนักบุญโคลัมบา จากนั้นในปี ค.ศ. 1933 เรื่องราวเนสซีก็กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อมีผู้พบเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดเคลื่อนตัวอยู่บนผิวน้ำ

    แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันการมีอยู่ของเนสซีอย่างชัดเจน แต่ภาพถ่ายและคำบอกเล่ามากมายก็ยังคงทำให้ผู้คนทั่วโลกหลงใหลและเดินทางมาที่นี่เพื่อหวังว่าจะได้เห็นเงาของสัตว์ลึกลับกับตาตัวเอง


    ความงดงามทางธรรมชาติของ Loch Ness

    Loch Ness เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ยาวกว่า 37 กิโลเมตร มีความกว้างเฉลี่ยราว 1.5 กิโลเมตร และความลึกสูงสุดประมาณ 230 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีปริมาตรน้ำมากที่สุดในสหราชอาณาจักร

    ความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้ไม่เพียงมาจากขนาดที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังเกิดจากภูมิทัศน์รอบข้างที่เต็มไปด้วยภูเขาเขียวขจี ป่าไม้หนาทึบ และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในยามเช้าเมื่อหมอกลอยเหนือผิวน้ำ ทะเลสาบจะดูเงียบสงบและลึกลับราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย

    ในฤดูร้อน ทุ่งหญ้าและป่ารอบทะเลสาบจะเขียวชอุ่มเหมาะแก่การเดินป่าและปิกนิก ส่วนฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีสีสันสดใสจากใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นเหลือง แดง และส้มตัดกับสีน้ำเงินเข้มของทะเลสาบ ขณะที่ฤดูหนาว ความเงียบสงัดและหิมะขาวที่ปกคลุมภูเขารอบๆ ทำให้ทิวทัศน์งดงามอย่างน่าทึ่ง


    ปราสาท Urquhart: อัญมณีริมทะเลสาบ

    หนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดของ Loch Ness คือ ปราสาท Urquhart ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และเคยเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญของสกอตแลนด์

    แม้ในปัจจุบันจะเหลือเพียงซากหินปรักหักพัง แต่ปราสาท Urquhart ก็ยังคงเป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนหอคอย Grant Tower เพื่อชมทิวทัศน์กว้างใหญ่ของ Loch Ness และยังถือเป็นจุดที่ผู้คนมักใช้ส่องกล้องตามหาเงาของเนสซีอีกด้วย


    Inverness: ประตูสู่ Loch Ness

    เมือง Inverness ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ Loch Ness มักถูกเรียกว่า “เมืองหลวงแห่งไฮแลนด์” เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของภูมิภาค นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมายัง Loch Ness มักเริ่มต้นจากที่นี่

    Inverness ไม่เพียงเป็นเมืองที่สะดวกสบายในการเดินทาง แต่ยังเต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจ เช่น Inverness Castle, Inverness Museum and Art Gallery รวมทั้งร้านอาหารและผับที่นำเสนออาหารสกอตติชแท้ๆ เช่น ฮักกิส (Haggis) และซุปเนื้อกวาง


    กิจกรรมท่องเที่ยวบน Loch Ness

    การมาเยือน Loch Ness ไม่ได้มีเพียงการมองหาตำนานเนสซีเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมมากมายที่ช่วยให้การเดินทางเต็มไปด้วยความทรงจำ

    • ล่องเรือชมทะเลสาบ: การนั่งเรือออกไปกลางน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสบรรยากาศลึกลับของ Loch Ness นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเรือที่ติดตั้งอุปกรณ์โซนาร์เพื่อทดลองค้นหาสัญญาณของเนสซีได้ด้วย
    • เดินป่าและปั่นจักรยาน: เส้นทาง Great Glen Way ซึ่งผ่าน Loch Ness มอบโอกาสให้ผู้คนได้เดินเท้าหรือปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
    • เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์: Loch Ness Centre and Exhibition ในหมู่บ้าน Drumnadrochit เป็นสถานที่ที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตำนานเนสซีผ่านงานวิจัยและการเล่าเรื่องเชิงประวัติศาสตร์
    • ตกปลาและกิจกรรมทางน้ำ: แม้ผู้คนจะมุ่งมั่นตามหาเนสซี แต่ Loch Ness ก็ยังเหมาะสำหรับการตกปลาและกิจกรรมทางน้ำแบบเบาๆ

    วัฒนธรรมและวิถีชีวิตรอบ Loch Ness

    พื้นที่รอบ Loch Ness เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบท้องถิ่น ชาวบ้านจำนวนมากยังคงรักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ปศุสัตว์ และการต้อนรับนักท่องเที่ยว บ้านเรือนส่วนใหญ่สร้างด้วยหินแบบดั้งเดิมและมีบรรยากาศที่อบอุ่น

    เสียงดนตรีพื้นบ้านสกอตติชที่บรรเลงด้วยปี่สก็อตมักจะได้ยินตามงานเทศกาลท้องถิ่นหรือแม้แต่ในผับเล็กๆ ขณะที่อาหารพื้นเมือง เช่น แซลมอนรมควัน เนื้อกวาง และชีสจากนมแกะ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสรสชาติแท้จริงของสกอตแลนด์


    Loch Ness ในฐานะสัญลักษณ์ของสกอตแลนด์

    แม้ตำนานเนสซีจะเป็นสิ่งที่หลายคนตั้งคำถาม แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังของสกอตแลนด์ ตำนานนี้ไม่เพียงช่วยสร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม แต่ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภูมิภาค Loch Ness จึงไม่ใช่เพียงทะเลสาบธรรมดา แต่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง

    วิธีการเดินทางไปยัง Loch Ness

    การเดินทางสู่ Loch Ness ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากมีหลายเส้นทางและรูปแบบการเดินทางให้เลือก

    1. โดยเครื่องบิน
      สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือ Inverness Airport ซึ่งมีเที่ยวบินภายในประเทศจากลอนดอน เอดินบะระ และกลาสโกว์ จากสนามบินใช้เวลาเพียง 30–40 นาทีโดยรถยนต์ก็ถึงทะเลสาบ
    2. โดยรถไฟ
      เมือง Inverness มีสถานีรถไฟหลักที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ทั่วสหราชอาณาจักร เช่น เอดินบะระและกลาสโกว์ หลังจากนั้นสามารถนั่งรถบัสหรือเช่ารถต่อไปยัง Loch Ness ได้สะดวก
    3. โดยรถยนต์
      การขับรถจากเอดินบะระไป Inverness ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง เส้นทางนี้มอบวิวภูเขาและทุ่งหญ้าที่งดงาม เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสสกอตแลนด์ในมุมมองกว้าง

    ที่พักรอบ Loch Ness

    บริเวณรอบทะเลสาบมีที่พักหลากหลายให้เลือก ตั้งแต่โรงแรมหรูไปจนถึงเกสต์เฮาส์เล็กๆ ที่อบอุ่น

    • โรงแรมริมทะเลสาบ: มอบวิวสวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Loch Ness Lodge
    • เบดแอนด์เบรกฟาสต์ (B&B): เหมาะกับผู้ที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นและบรรยากาศครอบครัว
    • โฮสเทลและที่พักราคาประหยัด: มีให้เลือกในเมือง Inverness และ Drumnadrochit สำหรับนักเดินทางที่มีงบจำกัด
    • แคมป์ปิ้งและคาราวาน: รอบๆ ทะเลสาบมีพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการพักกลางแจ้ง

    ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

    แม้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและรูปแบบการเดินทาง แต่สามารถคาดการณ์คร่าวๆ ได้ดังนี้

    • ที่พัก:
      • B&B หรือเกสต์เฮาส์: 40–70 ปอนด์ต่อคืน
      • โรงแรมระดับกลาง: 80–150 ปอนด์ต่อคืน
      • โรงแรมหรู: 200 ปอนด์ขึ้นไปต่อคืน
    • อาหาร:
      • ผับท้องถิ่น: มื้ออาหารประมาณ 10–20 ปอนด์
      • ร้านอาหารกลางเมือง Inverness: 20–40 ปอนด์ต่อมื้อ
    • กิจกรรม:
      • ทัวร์ล่องเรือชม Loch Ness: 15–25 ปอนด์ต่อคน
      • ค่าเข้าปราสาท Urquhart: ประมาณ 12–15 ปอนด์
      • ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre: ประมาณ 10–12 ปอนด์

    เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

    1. เลือกฤดูกาลที่เหมาะสม
      ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหนาแน่น แต่เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้ง ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–ตุลาคม) มอบสีสันที่งดงามและบรรยากาศสงบกว่า
    2. แต่งกายให้เหมาะสม
      อากาศในไฮแลนด์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ควรพกเสื้อกันฝนและรองเท้าที่เหมาะสำหรับเดินทางธรรมชาติ
    3. เตรียมเวลาให้เพียงพอ
      การเยี่ยมชม Loch Ness ควรใช้เวลาอย่างน้อย 2–3 วัน เพื่อมีโอกาสสัมผัสทั้งทะเลสาบ เมือง Inverness และสถานที่รอบข้าง
    4. อย่าลืมกล้องถ่ายรูป
      ไม่เพียงแค่เผื่อถ่ายเนสซี แต่ทิวทัศน์ธรรมชาติรอบทะเลสาบงดงามจนควรบันทึกไว้เป็นความทรงจำ

    กิจกรรมรอบนอกที่ไม่ควรพลาด

    นอกจากการล่องเรือหรือชมปราสาท Urquhart แล้ว พื้นที่รอบ Loch Ness ยังเต็มไปด้วยสถานที่ที่ควรค่าแก่การสำรวจ

    • Caledonian Canal: คลองที่เชื่อมทะเลสาบหลายแห่งในสกอตแลนด์ เส้นทางเดินเลียบคลองเหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือปั่นจักรยาน
    • Falls of Foyers: น้ำตกที่ตกลงสู่หุบเขาลึกทางฝั่งตะวันออกของ Loch Ness งดงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง
    • Glen Affric: หุบเขาที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ เต็มไปด้วยป่าสน ภูเขา และทะเลสาบเล็กๆ

    ไฮไลต์สำคัญของ Loch Ness

    • ตำนานเนสซี (Nessie): เรื่องเล่าที่โด่งดังไปทั่วโลก ทำให้ Loch Ness กลายเป็นทะเลสาบที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในสกอตแลนด์
    • ธรรมชาติอันกว้างใหญ่: ทะเลสาบที่ยาวกว่า 37 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยภูเขา ป่า และทุ่งหญ้า เหมาะแก่การเดินป่า ปั่นจักรยาน และถ่ายภาพ
    • ประวัติศาสตร์เข้มข้น: ปราสาท Urquhart และหมู่บ้านเก่าแก่เล่าเรื่องราวการต่อสู้และวัฒนธรรมของชาวไฮแลนด์
    • เมือง Inverness: ศูนย์กลางวัฒนธรรมที่ทันสมัยแต่ยังคงเสน่ห์แบบดั้งเดิม เหมาะแก่การพักผ่อนและเดินเล่นริมแม่น้ำ Ness
    • กิจกรรมหลากหลาย: ตั้งแต่ล่องเรือชมทะเลสาบ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre ไปจนถึงการผจญภัยในหุบเขา Glen Affric

    Loch Ness สำหรับนักเดินทางทุกรูปแบบ

    • นักผจญภัย: สามารถเลือกเดินป่ารอบๆ Glen Affric หรือลองปั่นจักรยานเลียบเส้นทาง Great Glen Way
    • ครอบครัว: ทัวร์ล่องเรือและพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre เป็นตัวเลือกที่เด็กๆ และผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินไปพร้อมกัน
    • นักประวัติศาสตร์: ปราสาท Urquhart และเมือง Inverness เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม
    • นักท่องเที่ยวที่มองหาความผ่อนคลาย: การพักในโรงแรมริมทะเลสาบหรือ B&B ที่เงียบสงบพร้อมวิวสวยงามคือทางเลือกที่ดีที่สุด

    คำแนะนำสุดท้าย

    Loch Ness ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นสัญลักษณ์ของสกอตแลนด์ที่สะท้อนทั้ง ความลึกลับ ประวัติศาสตร์ และความงามทางธรรมชาติ ผู้มาเยือนสามารถเลือกได้ว่าจะมองหาความจริงเกี่ยวกับ “เนสซี” หรือจะเพียงดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสงบและสวยงาม

    สิ่งที่ทำให้ Loch Ness พิเศษคือการผสมผสานของ ตำนานเก่าแก่กับชีวิตสมัยใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสเรื่องเล่าในตำนานไปพร้อมกับเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะมาในช่วงใดของปี Loch Ness ก็พร้อมมอบความประทับใจที่ยากจะลืม

    ตลาดนัดสวนจตุจักร: สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งสูงสุดของ กรุงเทพฯ มลพิษทางเสียง ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและปัญหาการนอนหลับ
    Justin Mitchell

    Related Posts

    มะเร็งปอดและอาการเริ่มต้นที่บ่งบอกด้วยการ ไอเป็นเลือด

    August 29, 2025

    วิธีรักษาฟกช้ำอย่างรวดเร็วทั้งแบบธรรมชาติและ ทางการแพทย์

    August 28, 2025

    อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์: ดื่มด่ำกับ ความงาม ของธรรมชาติป่าแท้

    August 27, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.