หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางสำหรับวันหยุดที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันสวยงาม วัฒนธรรมอันรุ่มรวย และอาหารแสนอร่อย ประเทศ เกาหลี ใต้ โดยเฉพาะ “เกาะต่าง ๆ ของเกาหลี” คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเกาะเชจู (Jeju), เกาะนามิ (Nami), หรือเกาะอุลลึง (Ulleungdo) ทุกแห่งล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่พร้อมจะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้มาเยือน
เกาะเชจู (Jeju Island): ดินแดนมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ

เกาะเชจูได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฮาวายแห่งเกาหลี” ด้วยภูมิประเทศที่โดดเด่น ทั้งภูเขาไฟฮัลลาซาน น้ำตกเชจอนยอน และทุ่งดอกคาโนลาเหลืองอร่ามในฤดูใบไม้ผลิ เกาะแห่งนี้ยังมีถ้ำลาวาและชายหาดที่เงียบสงบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์
ไฮไลต์:
- ปีนเขาฮัลลาซาน (Hallasan)
- ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ซองซานอิลจุลบง (Seongsan Ilchulbong)
- เดินเล่นในหมู่บ้านพื้นเมืองเซองอึบ (Seongeup Folk Village)
เกาะนามิ (Nami Island): โรแมนติกทุกฤดู
เกาะนามิเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ โด่งดังจากซีรีส์เกาหลี “Winter Sonata” เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีถนนต้นแปะก๊วยเรียงรายอย่างสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นทองและแดงอร่าม
ไฮไลต์:
- ปั่นจักรยานชมวิว
- ชิมอาหารเกาหลีต้นตำรับในร้านพื้นเมือง
- ถ่ายภาพกับรูปปั้นของตัวละครจาก Winter Sonata
เกาะอุลลึง (Ulleungdo): ความงามที่ยังคงความบริสุทธิ์
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์และหลงใหลในธรรมชาติบริสุทธิ์ เกาะอุลลึงคือสมบัติที่ซ่อนอยู่ในทะเลตะวันออก ด้วยภูเขาสูงและหน้าผาริมทะเลที่น่าตื่นตา ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนของคนรักการเดินป่า ดำน้ำ และชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก
ไฮไลต์:
- เส้นทางเดินเขา Nari Basin
- ล่องเรือรอบเกาะ
- ลิ้มลองปลาหมึกสด ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อ
รสชาติของเกาหลีใต้ที่ไม่ควรพลาด
ไม่ว่าคุณจะไปที่เกาะไหน อาหารท้องถิ่นก็ถือเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นบิบิมบับ (bibimbap), หมูย่างเกาหลี (samgyeopsal), หรืออาหารทะเลสด ๆ โดยเฉพาะที่เกาะเชจู ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปลาดิบและหมูดำพื้นเมือง
เคล็ดลับสำหรับนักเดินทาง
- เวลาแนะนำ: ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน–มิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน) คือช่วงที่อากาศดีที่สุด
- การเดินทาง: สนามบินในเกาหลีเชื่อมต่อกับเกาะสำคัญ ๆ ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะเชจูที่มีไฟลต์บินตรงหลายสาย
- แอปแนะนำ: ใช้ Naver Map และ Papago สำหรับแปลภาษาและนำทาง
วางแผนทริปอย่างไรให้คุ้มค่า
เลือกเกาะให้เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวของคุณ
- ชอบธรรมชาติและความสงบ: เกาะเชจูและเกาะอุลลึงคือคำตอบ
- หลงใหลความโรแมนติก: เกาะนามิเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเหมาะกับคู่รักหรือผู้ที่ชอบถ่ายรูป
- ชอบวัฒนธรรมท้องถิ่น: ลองสำรวจหมู่บ้านพื้นเมืองบนเกาะเชจู หรือร่วมกิจกรรมพื้นบ้านในช่วงเทศกาลตามเกาะต่าง ๆ
พักที่ไหนดี?
บนเกาะต่าง ๆ ในเกาหลีใต้มีที่พักให้เลือกมากมาย ตั้งแต่รีสอร์ทหรูริมทะเล ไปจนถึงเกสต์เฮาส์อบอุ่นราคาประหยัด หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นแบบแท้จริง แนะนำให้ลองพักแบบโฮมสเตย์หรือที่พักแบบฮันอก (บ้านเกาหลีโบราณ)
เทศกาลบนเกาะที่ไม่ควรพลาด
- เทศกาลดอกคาโนลา (Canola Flower Festival) – จัดขึ้นที่เกาะเชจูในช่วงเดือนเมษายน ดอกไม้เหลืองสดใสบานทั่วทุ่ง
- เทศกาลเกาะอุลลึงปลาหมึก (Ulleungdo Squid Festival) – ช่วงฤดูร้อน ชมการตกปลาหมึกสดและลองชิมหมึกตากแห้งขึ้นชื่อ
- เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่นามิ – ปลายเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน สีสันของธรรมชาติงดงามราวภาพวาด
คำแนะนำเล็กๆ ที่ทำให้ทริปดียิ่งขึ้น
- เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมกับสภาพอากาศ: อากาศบนเกาะเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
- สำรองที่พักล่วงหน้า: โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ที่พักบนเกาะยอดนิยมจะเต็มเร็วมาก
- ลองอาหารท้องถิ่น: นอกจากเมนูทั่วไป อย่าลืมชิมเมนูหายากที่หาได้เฉพาะบนเกาะ เช่น หอยเป๋าฮื้อสด หรือซุปหมูดำ
จุดถ่ายรูปยอดนิยม
- ภูเขาไฟฮัลลาซาน (เกาะเชจู)
- ถนนต้นเมเปิลในเกาะนามิ
- จุดชมวิวบนหน้าผาเกาะอุลลึง
- ทุ่งดอกไม้ริมทะเลในฤดูใบไม้ผลิ
- ประภาคารริมชายฝั่งในยามเย็น
ประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ “เที่ยว”
เกาะ เกาหลี ไม่ได้มีดีแค่สถานที่ แต่ยังให้คุณสัมผัสวัฒนธรรม ความอบอุ่นของผู้คน วิถีชีวิตชาวประมง และความเงียบสงบที่ช่วยให้คุณได้ “พักใจ” อย่างแท้จริง การเดินทางไปยังเกาะเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการเยียวยาจิตใจ และเปิดมุมมองใหม่ให้กับชีวิต
เกาะเกาหลีที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ควรค่าแก่การไปเยือน
นอกจากเกาะยอดนิยมอย่างเชจู นามิ หรืออุลลึง เกาหลียังมีเกาะขนาดเล็กและเงียบสงบอีกมากมายที่ซ่อนเสน่ห์ไว้อย่างลึกซึ้ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
เกาะทงแยง (Tongyeong)
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาหลี ทงแยงเป็นเมืองท่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมีเกาะเล็กเกาะน้อยกระจายอยู่โดยรอบ จุดเด่นคือทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ทางเดินเลียบหน้าผา และหมู่บ้านศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
เกาะจินโด (Jindo)
เกาะแห่งตำนานการแยกทะเล ซึ่งในบางช่วงเวลาของปี น้ำทะเลจะลดลงจนสามารถเดินข้ามจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาที่สุดของเกาหลี และยังมีวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สืบทอดกันมายาวนาน
เกาะคอจาโด (Geoje Island)
เกาะที่มีธรรมชาติบริสุทธิ์ พร้อมด้วยเส้นทางเดินเขาและชายฝั่งที่สวยงาม ไม่พลุกพล่านเหมือนเกาะท่องเที่ยวหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบและได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง
การเดินทางระหว่างเกาะ
เกาหลีใต้มีระบบคมนาคมที่ทันสมัยและเชื่อมต่อถึงกันอย่างมีประสิทธิภาพ การเดินทางไปยังเกาะส่วนใหญ่สามารถทำได้โดยเครื่องบิน เรือ หรือรถโดยสารประจำทางที่เชื่อมต่อกับท่าเรือหลัก นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเส้นทางล่วงหน้าได้ง่ายผ่านเว็บไซต์การท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดหรือใช้แอปพลิเคชันท่องเที่ยวที่รองรับภาษาอังกฤษ
ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง การเดินทางท่องเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืนสามารถทำได้อย่างสบายใจ โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะที่ชุมชนยังคงมีความเป็นมิตรและดูแลกันอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ยังมีบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว และป้ายแนะนำในหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษและจีนในจุดสำคัญ
เกาะเกาหลีในแต่ละฤดูกาล
ความสวยงามของเกาะเกาหลีไม่ได้จำกัดอยู่แค่ช่วงใดช่วงหนึ่งของปี แต่แตกต่างกันตามฤดูกาล โดยแต่ละช่วงเวลามีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
อากาศเย็นสบาย ดอกไม้ผลิบานทั่วเกาะ โดยเฉพาะดอกซากุระและดอกคาโนลา บรรยากาศของเกาะเชจูและนามิจะงดงามเป็นพิเศษในช่วงนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินเล่น ถ่ายภาพ และชมธรรมชาติ
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
เหมาะกับกิจกรรมทางทะเล เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ พายเรือคายัค และล่องเรือ เกาะเชจูมีชายหาดยอดนิยมหลายแห่ง ส่วนเกาะเล็กอื่นๆ อย่าง Geoje และ Tongyeong ก็เหมาะสำหรับผู้ที่อยากหลีกเลี่ยงฝูงชน
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ช่วงเวลานี้มีทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม อากาศไม่ร้อนจัด เหมาะแก่การปีนเขา เดินป่า หรือขี่จักรยานเที่ยวชมเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะนามิที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
แม้เกาะบางแห่งอาจมีอากาศหนาวจัด แต่ก็ยังมีความงามเฉพาะตัว เช่น หิมะที่ปกคลุมภูเขาฮัลลาซานบนเกาะเชจู หรือวิวหิมะตกบนเกาะนามิ เหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ
แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและภาพยนตร์
เกาะหลายแห่งในเกาหลีเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์หรือภาพยนตร์ชื่อดัง ทำให้กลายเป็นจุดหมายในฝันของแฟนๆ ทั่วโลก เช่น
- เกาะนามิจากซีรีส์ Winter Sonata
- เกาะอุโด (Udo) ที่อยู่ใกล้เชจูจากภาพยนตร์เรื่อง “Architecture 101”
- หมู่บ้านบนเกาะเชจูจากหลากหลายรายการวาไรตี้ชื่อดัง
การได้เดินทางตามรอยภาพยนตร์เหล่านี้ทำให้การท่องเที่ยวมีความหมายมากขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ทั้งโรแมนติกและเปี่ยมด้วยความทรงจำ
ความยั่งยืนและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หลายเกาะส่งเสริมการเดินทางแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
- การใช้จักรยานแทนรถยนต์ภายในเกาะ
- การอนุรักษ์พื้นที่ป่าธรรมชาติและแนวชายฝั่ง
- ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์และการท่องเที่ยวชุมชน
การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเกาะเกาหลี
เพื่อให้การเดินทางไปยังเกาะต่างๆ ของเกาหลีเป็นไปอย่างราบรื่นและคุ้มค่ากับเวลา การเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณา
ตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้า
แต่ละเกาะมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันโดยเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูฝน เช่น เกาะอุลลึงมีฝนตกชุกและอากาศหนาวเย็นมากกว่าเกาะเชจู การเตรียมเสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสมกับภูมิประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เตรียมเอกสารและข้อมูลการเดินทางให้พร้อม
หากคุณเดินทางจากต่างประเทศ อย่าลืมตรวจสอบเอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือเดินทาง วีซ่า (หากต้องใช้) และเอกสารเกี่ยวกับประกันสุขภาพหรือการเดินทาง ควรเตรียมข้อมูลเที่ยวบินในประเทศ ตารางเรือเฟอร์รี หรือรถรับส่งไปยังเกาะไว้ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์
- Papago สำหรับแปลภาษาแบบเรียลไทม์
- Naver Map หรือ KakaoMap สำหรับใช้แทน Google Maps ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในเกาหลี
- Visit Korea สำหรับค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวล่าสุดในแต่ละพื้นที่
แนะนำงบประมาณโดยประมาณ
การเดินทางไปยังเกาะต่างๆ ของเกาหลีสามารถปรับได้ตามงบประมาณที่มี โดยเฉลี่ยแล้ว
- ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ (ไปเชจู): 1,000 – 2,500 บาทต่อเที่ยว
- ค่าเรือเฟอร์รีไปยังเกาะอุลลึงหรือคอจาโด: 500 – 1,200 บาท
- ค่าที่พักต่อคืน: 800 – 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทที่พัก)
- ค่าอาหารต่อวัน: 300 – 800 บาท
- ค่าเข้าชมสถานที่และกิจกรรมต่างๆ: 100 – 500 บาท
สำหรับผู้ที่มีงบจำกัด การเลือกพักในโฮสเทลหรือเกสต์เฮาส์ และทานอาหารท้องถิ่นตามตลาดพื้นบ้าน จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากโดยไม่ลดทอนคุณภาพของประสบการณ์
แรงบันดาลใจในการเดินทาง: เดินทางเพื่อเติมพลังชีวิต
การได้ไปเยือนเกาะเกาหลีสักครั้งในชีวิต คือโอกาสในการหยุดพักจากความวุ่นวายและกลับมาเชื่อมต่อกับตัวเองอีกครั้ง ไม่ว่าจะเดินป่าในป่าธรรมชาติของเกาะอุลลึง หายใจลึกๆ ท่ามกลางลมทะเลบนเกาะเชจู หรือเงียบสงบในเช้าตรู่ของเกาะนามิ ทุกช่วงเวลาล้วนมีพลังในการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ
การท่องเที่ยวจึงไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายภาพหรือเก็บสถานที่ แต่คือการเก็บความรู้สึก เก็บแรงบันดาลใจ และกลับมาพร้อมพลังใหม่ที่เต็มเปี่ยมสำหรับการใช้ชีวิตต่อไป
บทสรุป
สำรวจเสน่ห์แห่งเกาะเกาหลี คือการเปิดประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ธรรมชาติที่งดงาม อาหารที่มีรสชาติหลากหลาย วัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่น และความเงียบสงบที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน ล้วนทำให้เกาะเหล่านี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การไปเยือนอย่างยิ่ง
วันหยุดครั้งต่อไป หากคุณต้องการพักใจ พักกาย และออกเดินทางเพื่อค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต เกาะเกาหลีคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด