ปี 2025 กำลังจะมาถึง พร้อมกับโอกาสใหม่ๆ วันหยุด ในการออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการผจญภัยในธรรมชาติ การพักผ่อนริมทะเล หรือการสัมผัสวัฒนธรรมอันหลากหลาย ปีนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายรอให้คุณไปสำรวจ มาดูกันว่าปลายทางไหนที่จะเป็นจุดหมายต่อไปของคุณ!
1. ญี่ปุ่น: เที่ยวชมความงามในยุคหลังโอลิมปิก

ญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในปี 2025 ประเทศนี้จะจัดงาน World Expo 2025 ที่โอซาก้า ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสนวัตกรรมล้ำสมัยและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์
สถานที่แนะนำ:
- โอซาก้า: ชมงาน World Expo และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นอย่างโอโคโนมิยากิและทาโกะยากิ
- เกียวโต: สัมผัสบรรยากาศโบราณด้วยวัดและศาลเจ้าสวยงาม
- ฮokkaido: ผจญภัยในธรรมชาติทั้งสกีรีสอร์ทและออนเซ็น
2. นิวซีแลนด์: สวรรค์ของนักผจญภัย
สำหรับคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง นิวซีแลนด์คือสวรรค์ที่คุณไม่ควรพลาด! จากภูเขา ทะเลสาบ และชายหาดสวยงาม ที่นี่มีทุกอย่างให้คุณได้ลอง
กิจกรรมแนะนำ:
- เดินป่าเส้นทาง Milford Track ในฟิออร์ดแลนด์
- เล่นสกีที่ Queenstown ในช่วงฤดูหนาว
- สัมผัสวัฒนธรรมเมารี ที่โรโตรัว
3. ไอซ์แลนด์: สุดยอดดินแดนมหัศจรรย์
ไอซ์แลนด์ยังคงเป็นจุดหมายในฝันของคนรักธรรมชาติ ด้วยทุ่งลาวา ธารน้ำแข็ง และแสงเหนือที่สวยงาม
ไฮไลต์:
- ชมแสงเหนือ ระหว่างเดือนกันยายนถึงมีนาคม
- แช่น้ำแร่ที่ Blue Lagoon
- เที่ยวชม Golden Circle เพื่อเห็นน้ำตกกุลฟอสและแหล่งความร้อนใต้ดิน
4. เวียดนาม: ความงามที่ยังไม่ถูกค้นพบทั้งหมด
เวียดนามเป็นอีกประเทศในเอเชียที่กำลังมาแรงด้วยวัฒนธรรม วันหยุด อาหาร และธรรมชาติสวยงาม
สถานที่ต้องไป:
- ฮาลองเบย์: ล่องเรือชมเกาะหินปูนอันเลื่องชื่อ
- ดานัง: ชายหาดสวยและสะพานทองอันโด่งดัง
- ฮอยอัน: เมืองโบราณที่สวยงามยามค่ำคืน
5. โปรตุเกส: ยุโรปที่อบอุ่นและมีเสน่ห์
หากคุณอยากเที่ยวยุโรปแต่ไม่ชอบอากาศหนาว โปรตุเกสคือตัวเลือกที่ดีด้วยอากาศอบอุ่นและทัศนียภาพสวยงาม
ไม่ควรพลาด:
- ลิสบอน: เมืองหลวงสีสันสดใสกับรถรางโบราณ
- โปร์โต: ชิมไวน์ชื่อดังและชมสะพานโดนาลุยส์
- อัลgarve: ชายหาดสวยระดับโลก
6. แอฟริกาใต้: สัตว์ป่าและธรรมชาติอันตระการตา
สำหรับคนรักสัตว์ป่าและการซาฟารี แอฟริกาใต้คือปลายทางในฝัน
ประสบการณ์สุดพิเศษ:
- ซาฟารีที่ Kruger National Park
- เที่ยว Cape Town และขึ้น Table Mountain
- ขับรถเลียบชายฝั่ง Garden Route
7. เปรู: สัมผัสอารยธรรมโบราณและธรรมชาติอันตระการตา
เปรูเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าและการศึกษาวัฒนธรรม
สถานที่แนะนำ:
- มาชูปิกชู: นครโบราณของชาวอินคาที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส
- กุสโก: เมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิอินคา
- ทะเลสาบตีตีกากา: ทะเลสาบที่สูงที่สุดในโลกที่สามารถเดินเรือได้
8. นอร์เวย์: ดินแดนแห่งฟยอร์ดและแสงเหนือ
นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีธรรมชาติสวยงามที่สุดในโลก โดยเฉพาะฟยอร์ดที่งดงามและโอกาสในการเห็นแสงเหนือ
ไฮไลต์:
- เบอร์เกน: เมืองทางเข้าสู่ฟยอร์ดที่สวยงาม
- เที่ยวชมฟยอร์ดเช่น Geirangerfjord และ Nærøyfjord
- เมืองทรอมโซ: สถานที่ยอดนิยมสำหรับชมแสงเหนือ
9. อาร์เจนตินา: ความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีทั้งธรรมชาติสวยงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล
สถานที่ต้องไป:
- บัวโนสไอเรส: เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมแทงโก้
- อุทยานแห่งชาติ Los Glaciares: ชมธารน้ำแข็งเปริโต โมเรโน
- เมนโดซา: ภูมิภาคผลิตไวน์ชั้นนำของโลก
10. โมร็อกโก: สัมผัสวัฒนธรรมอาหรับและแอฟริกัน
โมร็อกโกเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสีสันและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์
ไม่ควรพลาด:
- มาร์rakeช: เมืองสีแดงที่มีตลาดและพระราชวังสวยงาม
- เฟซ: เมืองโบราณที่มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในโลก
- ทะเลทรายซาฮารา: ผจญภัยบนหลังอูฐและค้างแรมในเต็นท์เบอร์เบอร์
11. แคนาดา: ธรรมชาติอันกว้างใหญ่และเมืองสมัยใหม่
แคนาดาเป็นประเทศที่มีทั้งธรรมชาติสวยงามและเมืองที่ทันสมัย
ประสบการณ์สุดพิเศษ:
- แวนคูเวอร์: เมืองที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและเหมาะสำหรับการเดินป่า
- อุทยานแห่งชาติ Banff: เทือกเขาร็อกกีและทะเลสาบสีฟ้าใส
- มอนทรีออลและควิเบก: สัมผัสวัฒนธรรมฝรั่งเศสในอเมริกาเหนือ
12. เกาหลีใต้: ผสมผสานระหว่าง傳統และสมัยใหม่
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
สถานที่แนะนำ:
- โซล: เมืองหลวงที่มีทั้งพระราชวังเก่าและย่านช้อปปิ้งทันสมัย
- ปูซาน: ชายหาดและอาหารทะเลสดใหม่
- เกาะเชจู: ธรรมชาติสวยงามและอากาศบริสุทธิ์
13. ภูฏาน: อาณาจักรแห่งความสุข
ภูฏานเป็นประเทศที่ยังคงความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์ ในปี 2025 นี้ อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเยือนก่อนที่นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด:
- ทักซัง (Tiger’s Nest Monastery): วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง
- พนาโฮ (Punakha Dzong): วัดที่สวยงามที่สุดในประเทศ
- เทศกาลฉลอง (Tshechu): ชมการแสดงระบำหน้ากากอันเป็นเอกลักษณ์
14. โครเอเชีย: ไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
โครเอเชียยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมด้วยเมืองเก่าที่สวยงามและชายฝั่งทะเลที่งดงาม
สถานที่ต้องไป:
- ดูบรอฟนิก (Dubrovnik): เมืองมรดกโลกที่โด่งดังจากซีรีส์ Game of Thrones
- พลิตวิเซ (Plitvice Lakes): อุทยานแห่งชาติที่มีทะเลสาบสีฟ้าใสเป็นชั้นๆ
- สปลิต (Split): เมืองโบราณที่มีพระราชวังไดโอคลีเชียน
15. ชิลี: ดินแดนแห่งความหลากหลายทางภูมิศาสตร์
ชิลีเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงธารน้ำแข็ง
ประสบการณ์พิเศษ:
- ทะเลทรายอาตากามา (Atacama Desert): ทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในโลก
- เกาะอีสเตอร์ (Easter Island): เยี่ยมชมรูปปั้นโมอายอันลึกลับ
- ปาตาโกเนีย (Patagonia): สวรรค์ของนักเดินป่า
16. โอมาน: ความงามแห่งตะวันออกกลาง
โอมานเป็นประเทศที่ปลอดภัยและมีธรรมชาติสวยงาม น่าไปเยือนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมอาหรับแท้ๆ
ไม่ควรพลาด:
- มัสกัต (Muscat): เมืองหลวงที่ผสมผสานความเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว
- ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Sands): นอนค้างแรมในเต็นท์กลางทะเลทราย
- ภูเขาอัลฮาจาร์ (Al Hajar Mountains): เทือกเขาสูงตระหง่าน
17. สกอตแลนด์: ดินแดนแห่งตำนานและธรรมชาติ
สกอตแลนด์เป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่รักประวัติศาสตร์และธรรมชาติ
สถานที่แนะนำ:
- เอดินบะระ (Edinburgh): เมืองหลวงที่มีปราสาทสวยงาม
- เกาะสกาย (Isle of Skye): ธรรมชาติอันตระการตา
- ล็อกเนส (Loch Ness): ทะเลสาบแห่งตำนานสัตว์ประหลาด
18. มัลดีฟส์: สวรรค์บนดิน
มัลดีฟส์ยังคงเป็นจุดหมายในฝันสำหรับคู่รักและผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างหรูหรา
ประสบการณ์สุดพิเศษ:
- ที่พักบังกะโลเหนือน้ำ (Overwater Bungalow): ตื่นมาพร้อมวิวทะเลสีฟ้าใส
- ดำน้ำดูปะการัง (Snorkeling/Diving): สำรวจโลกใต้ทะเลที่สวยงาม
- ร้านอาหารใต้ทะเล (Underwater Restaurant): รับประทานอาหารพร้อมวิวปลาแหวกว่าย
เทรนด์การท่องเที่ยวปี 2025
นอกจากจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจแล้ว ปี 2025 ยังมีเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าจับตามอง
- การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Sustainable Travel): นักท่องเที่ยวหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- การท่องเที่ยวระยะยาว (Workation): ผสมผสานระหว่างการทำงานและการท่องเที่ยว
- การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experiential Travel): มุ่งเน้นกิจกรรมเฉพาะตัวมากกว่าการเที่ยวชมทั่วไป
- การท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี (Tech-Driven Travel): การใช้ AI และ AR เพื่อเพิ่มประสบการณ์การเดินทาง
สรุป
ปี 2025 เป็นปีที่เต็มไปด้วยโอกาสในการออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะชอบการผจญภัยในธรรมชาติ การพักผ่อนริมทะเล หรือการสัมผัสวัฒนธรรมอันหลากหลาย ก็มีสถานที่มากมายรอให้คุณไปสำรวจ